แซลมอน อาหารคนของรักสุขภาพ มีประโยชน์ยังไง กินทุกวันได้ไหม

แซลมอน อาหารของคนรักสุขภาพ

Salmon

แซลมอน เป็นแหล่งที่ยอดเยี่ยมของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และช่วยลดความดันโลหิต

นอกจากนี้ โอเมก้า 3 ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงสมองและระบบประสาท ช่วยในเรื่องความจำ และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และภาวะซึมเศร้าอีกด้วย

ตอนที่ 1 : แซลมอนเกรดกินดิบมีกี่แบบ

ตอนที่ 2 : แซลมอนควรกินต่อวันกี่กรัม

ตอนที่ 3 : ประโยชน์และโทษของแซลมอน

ตอนที่ 4 : เมนูรักสุขภาพจากแซลมอน

ตอนที่ 5 : สรุป

แซลมอน เกรดกินดิบมีกี่แบบ

Salmon

แซลมอน มีสายพันธ์ุอะไรบ้าง

ปลา Salmon ที่เรารู้จักกันดีนั้นจริงๆ แล้วมี หลายสายพันธุ์และหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีรสชาติ เนื้อสัมผัส และแหล่งกำเนิดที่แตกต่างกันออกไปด้วย วันนี้เรามาสรุปให้ชัดๆ ว่าแซลมอนมีกี่แบบกันแน่

1.) แอตแลนติก (Atlantic Salmon) * นิยมที่สุดในไทย

  • สายพันธุ์ : Salmo salar โดยแหล่งที่พบ นอร์เวย์, แคนาดา, ชิลี 
  • จุดเด่น: เนื้อนุ่ม สีส้มอมชมพู รสชาติมันละมุน 
  • นิยมใช้: ซาชิมิ, ย่าง, สเต็ก 
  • เป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงมากที่สุดในฟาร์มแซลมอนทั่วโลก


2.) คิง (King / Chinook Salmon)

  • สายพันธุ์: Oncorhynchus tshawytscha แหล่งที่พบ อลาสก้า, แคนาดา, นิวซีแลนด์
  • จุดเด่น: เนื้อมันเยอะที่สุดในบรรดาแซลมอน รสเข้ม เนื้อนุ่ม ราคาค่อนข้างสูง หายากในตลาดบ้านเรา

3.) ซ็อกอาย (Sockeye Salmon)

  • สายพันธุ์: Oncorhynchus nerka
  • จุดเด่น: สีแดงจัดกว่าใคร รสเข้ม กลิ่นปลาชัด 
  • นิยม: รมควัน, ปิ้งย่าง แฟนพันธุ์แท้จะชอบเพราะรสจัด

4.) โคโฮ (Coho / Silver Salmon)

  • สีเนื้ออ่อนกว่า Sockeye แต่กลิ่นไม่แรง 
  • นิยมใช้ในอาหารแช่แข็งหรือปรุงสุก

5.) พิงค์ (Pink Salmon)

  • ตัวเล็ก เนื้อค่อนข้างนิ่มกว่าชนิดอื่น 
  • นิยมแปรรูปเป็นกระป๋อง ราคาถูกที่สุดในกลุ่ม

6.) ชัม (Chum / Keta Salmon)

  • เนื้อหยาบกว่าชนิดอื่น 
  • นิยมใช้ทำผลิตภัณฑ์แช่แข็งหรืออุตสาหกรรม 
  • ไข่ปลา (Ikura) มักได้จากชัมแซลมอน

สำหรับเกรดกินดิบในทางปฏิบัติแล้วไม่มีการแบ่งเกรดเหมือนตลาดเนื้อวัว แต่เป็นคำที่ถูกใช้ทางการตลาดเพื่อบ่งบอกว่า Salmon นั้น มีคุณภาพดี สดใหม่ และผ่านการจัดการที่ถูกสุขลักษณะ จนผู้ขายมั่นใจว่าสามารถนำไปบริโภคแบบดิบได้อย่างปลอดภัยภายใต้เงื่อนไขการจัดการที่เหมาะสม 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงความแตกต่างของแซลมอนที่เหมาะกับการกินดิบ มักจะมีการพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความสด , ความสะอาด , แหล่งที่มา หรือกระบวนการแช่แข็งในรูปแบบต่างๆนั่นเอง

แซลมอนควรกินต่อวันกี่กรัม

วิธีกินSalmon

ปริมาณ Salmon ที่ ควรกินต่อวัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละคน เช่น กินเพื่อสุขภาพทั่วไป หรือควบคุมน้ำหนัก หรือเพื่อเพิ่มโอเมก้า 3 แต่โดยรวมแล้วมีคำแนะนำทั่วไปที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

คำแนะนำทั่วไปสำหรับผู้ใหญ่ ✅ 

  • ปริมาณที่แนะนำ: 75 – 150 กรัม / วัน หรือประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ (คิดเป็น 300-450 กรัม/สัปดาห์)
  • 150 กรัม ให้พลังงานทั้งหมด 206 กิโลแคลอรี่

ทำไมควรกินในปริมาณนี้?

  • โอเมก้า-3 สูงมาก: ช่วยบำรุงสมอง หัวใจ ลดอักเสบ 
  • โปรตีนคุณภาพดี: ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เสริมภูมิคุ้มกัน 
  • วิตามิน D, B12, ซีลีเนียม: เสริมพลังงานและระบบประสาท 

*แต่! หากกินมากเกินไป อาจได้รับ ไขมันหรือแคลอรี่มากเกิน และ เสี่ยงรับสารโลหะหนัก เช่น ปรอท (โดยเฉพาะจากปลาแซลมอนธรรมชาติ)

ประโยชน์และโทษของแซลมอน

ข้อดีข้อเสียของ แซลมอน

ประโยชน์ของ แซลมอน

  • อุดมด้วยโอเมก้า-3 (EPA และ DHA) : ลดการอักเสบในร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เสริมสร้างสมอง และการทำงานของระบบประสาท
  • แหล่งโปรตีนคุณภาพสูง : ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ทำให้รู้สึกอิ่มนาน เหมาะกับผู้ควบคุมน้ำหนัก
  • วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย : วิตามิน D เสริมความแข็งแรงของกระดูก วิตามิน B12 และ B6 บำรุงระบบประสาทและเม็ดเลือด ซีลีเนียม ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมภูมิคุ้มกัน
  • ดีต่อสายตา : มีสาร แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และปกป้องจอประสาทตา
ข้อควรระวังของแซลมอน

ข้อควรระวังของแซลมอน

  • เสี่ยงต่อการสะสมสารโลหะหนัก : โดยเฉพาะ Salmon จากธรรมชาติ (Wild) อาจมีสารปรอท หรือ PCBs หากกินมากเกินไปหรือกินบ่อย
  • ความเสี่ยงจากการกินดิบ : เช่น ซาชิมิ หรือ Salmon รมควัน อาจมีพยาธิหรือเชื้อโรคหากไม่ผ่านการแช่แข็งตามมาตรฐาน
  • แคลอรี่และไขมันสูง : โดยเฉพาะหากปรุงด้วยน้ำมันหรือซอสหวาน อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหากกินเยอะเกินไป
  • Farmed Salmon : อาจมีการใช้ยาปฏิชีวนะ หรืออาหารสังเคราะห์บางชนิดในการเพาะเลี้ยง ซึ่งอาจมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว

เมนูรักสุขภาพจากแซลมอน

เมนูสุขภาพแซลมอน

🥗 1.) สลัดแซลมอนย่าง

วัตถุดิบเด่น

  • Salmon ย่างไฟเบา ๆ ไม่ใช้น้ำมัน 
  • ผักสลัดรวม (เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค ร็อกเก็ต ฯลฯ) 
  • อะโวคาโด มะเขือเทศเชอร์รี่ 
  • น้ำสลัดเลมอนน้ำผึ้ง หรือน้ำมันมะกอกบีบมะนาว 

*จุดเด่น: ไขมันดีจาก Salmon และอะโวคาโด ช่วยลดคอเลสเตอรอล เพิ่มไฟเบอร์จากผักหลากชนิด

🍚 2.) ข้าวไรซ์เบอร์รี่แซลมอนเทริยากิ 

วัตถุดิบเด่น

  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ 
  • Salmon ย่างราดซอสเทริยากิโฮมเมด (สูตรน้ำตาลน้อย) 
  • งาขาวคั่ว ผักต้มเคียง เช่น บรอกโคลี แครอท ถั่วแขก

*จุดเด่น: ครบทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และไฟเบอร์ แถมอร่อยกลมกล่อมแบบญี่ปุ่น

🍜 3.) แซลมอนต้มยำคลีน 

วัตถุดิบเด่น

  • Salmonหั่นชิ้น 
  • เห็ดฟาง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด 
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย พริกขี้หนูสด และมะนาวสด 

*จุดเด่น: ต้มยำสูตรคลีน ไม่ใส่ครีมหรือพริกเผา เผ็ดจี๊ดจ๊าด แถมปลุกระบบเผาผลาญ

🍣 4.) แซลมอนซาชิมิ + สาหร่ายวากาเมะ

วัตถุดิบเด่น

  • Salmonซาชิมิ 
  • สาหร่ายวากาเมะ 
  • โชยุแบบโซเดียมต่ำ + วาซาบิเล็กน้อย 

*จุดเด่น: เมนูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยโอเมก้า-3 และแร่ธาตุจากสาหร่าย กินแบบไม่อ้วน แต่อย่าลืมความสะอาด

🥪 5. ) แซลมอนอะโวคาโดแรป

วัตถุดิบเด่น

  • แผ่นแรปธัญพืช 
  • Salmonอบหรือย่าง 
  • อะโวคาโดบด 
  • ผักสด: ผักโขมสด แตงกวา มะเขือเทศ 
  • โยเกิร์ตซอสไขมันต่ำ หรือฮัมมุส 

*จุดเด่น: เมนูพกพาสะดวก ให้พลังงานดี ไขมันดี และโปรตีนแน่น เหมาะสำหรับมื้อกลางวันหรือพกไปทำงาน

สรุป

ด้วยคุณประโยชน์มากมายเหล่านี้ ทำให้แซลมอนเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่มีสำหรับสุขภาพแต่ก็มีข้อควรระวังคือ เน้นกินสุกจะดีกว่านะครับ